วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สถานที่ท่องในเที่ยวชัยภูมิที่น่าไปที่สุด

สถานที่ท่องในเที่ยวชัยภูมิที่น่าไปที่สุด 


        

1. มอหินขาว

                   มอหินขาว เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่ถือว่ามีความงดงามทางธรรมชาติไม่แพ้ทุ่งดอกกระเจียวงาม ซึ่งตั้งอยู่ใน เขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา บริเวณบ้านวังคำแคน หมู่ 9 ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิเดิมพื้นที่ แถวนี้ เป็นป่า ต่อมาได้มีคนมาบุกเบิกทำไร่และก็เห็นมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ทั่วไปแต่ ก็ไม่ได้สนใจอะไร ที่ไร่ มันสำปะหลัง (ในสมัยนั้น) แต่จากเสียงบอกเล่า มีคนเคยเห็นว่าแปลกประหลาดมาก ก็คือก้อนหินใหญ่ 5 ก้อน ที่ในทุกคืนวันพระ (15 ค่ำ, 8 ค่ำ) จะมีแสง สีขาวส่องขึ้นมา คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้น เลยเรียกที่นี่ว่า มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย“เสาหินและแท่งหิน ที่มอหินขาว ส่วนใหญ่ เป็นหินทรายสีขาว นอกจากนี้ก็ยังมี หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง หากมาท่องเที่ยวในฤดูฝน นอกจากนักท่องเที่ยว จะได้ พบเห็น ประติมา้กรรมทางธรรมชาติที่สวยงามของเสาหินแล้ว ยังได้พบดอกไม้ป่าที่บ้านสะพรั่งอยู่ทั่วมอหินขาวดูแล้ว เป็นภาพที่ สวยงามและน่าชมนัก  หากคุณได้เข้ามาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งป่าเขาที่นี่แล้วจะชวนคุณหลงใหลมิรู้ลืมจน”มอหินขาว” แห่งนี้เคย ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ของท่านมุ้ย เรื่องพระนเรศวรมหาราช มาแล้ว นี่คืออีกหนึ่งความท้าทายของ นักแคมป์ปิ้งไม่ควรพลาด



2. น้ำตกตากโตน 

   

                    อุทยานแห่งชาติตาดโตน มีพื้นที่อยู่บนเทือกเขาภูแลนคา มีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 4 ของเทือกเขาภูแลนคา โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูงโดยมีเทือกเขาล้อมรอบที่ราบเอาไว้ ตอนกลางเป็นหุบเขากว้างใหญ่ พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะมีเขาภูเขียว ภูกลาง และภูแลนคา ซึ่งจะมีระดับสูงสุด 905 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือจะมียอดภูแลนคาซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติตาดโตน โดยมีความสูงประมาณ 945 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยอดเขาสูงเหล่านี้เป็นต้นน้ำลำธารของห้วยต่างที่สำคัญหลายสาย และต้นกำเนิดของน้ำตกตาดโตน ได้แก่ ห้วยลำปะทาวหรือห้วยตาดโตน ห้วยน้ำซับ ห้วยคร้อ ห้วยตาดโตนน้อย ห้วยสีนวน และห้วยแก่นท้าว ซึ่งจะไหลรวมกันเป็นห้วยปะทาวและไหลผ่านตัวอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ นอกจากนี้ยังมีห้วยที่สำคัญคือ ห้วยชีลอง ห้วยช่อระกา ห้วยเสียว ห้วยแคน และห้วยเสียวน้อย สภาพป่าเป็นป่าดิบแล้ง ในบริเวณริมลำห้วยหุบเขาและยอดเขามีดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ดี และป่าเต็งรังเป็นดินกรวด มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างต่ำ 


3. ภูเเลนคา 


                   อุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ ตำบลบ้านหัน ตำบลสระโพนทอง ตำบลโนนกอก ตำบลซับสีทอง ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ ตำบลกุดชุมแสง ตำบลคูเมือง อำเภอหนองบัวแดง ตำบลท่ามะไฟหวาน อำเภอแก่งค้อ ตำบลห้วยต้อน อำเภอเมืองชัยภูมิ ตำบลภูแลนคา อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ สภาพป่าเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น ป่าหินงามจันทร์แดง ซุ้มประตูหินธรรมชาติ ผากล้วยไม้ น้ำตกตาดหินดาด น้ำตกตาดโตน ถ้ำพระ ผาเก้ง ผาแพ เป็นต้น และการเดินทางเข้าไปเที่ยวชมก็สะดวก มีเนื้อที่ประมาณ 200.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 125,312.50 ไร่    ลักษณะโดยทั่วไปของพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่สำรวจเป็นเทือกเขาภูแลนคา ภูเขียว ภูคำน้อย พื้นที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน และที่ราบสูง ซึ่งจะมีระดับความสูงตั้งแต่ประมาณ 200 ถึง 725 เมตร จากระดับน้ำทะเล ส่วนพื้นที่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะมียอดเขาที่มีความสูง 669 เมตร จากระดับน้ำทะเล ส่วนพื้นที่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะมียอดภูแลนคา ซึ่งเป็นยอดที่มีความสูง สูงสุดของพื้นที่ โดยมีความสูงประมาณ 725 เมตร จากระดับน้ำทะเล พื้นที่ทางด้านทิศใต้จะเป็นพื้นที่ลาด ซึ่งจะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 200 ถึง 500 เมตร และพื้นที่ทางด้านทิศเหนือจะเป็นพื้นที่ลาดชันมาก มีหน้าผาหุบเขาเป็นส่วนใหญ่



4. น้ำผุดทับลาว

น้ำผุดทัพลาว เกิดจากหินที่ถูกกัดกร่อนจากน้ำและความชื้น ด้วยระยะเวลานานหลายล้านปี จนทะลุเป็นโพรงใต้ภูเขา ทำให้เป็นทางน้ำไหลจากใต้ดิน ดันขึ้นสู่พื้นดิน เป็นต้นกำเนิดแหล่งน้ำธรรมชาติ ผุดขึ้นในปริมาณกว่า 400 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงตลอดทั้งปี จึงสันนิษฐานกันว่า เป็นน้ำผุดที่เกิดจากการดูดซับน้ำของผืนป่าบนภูเขา และค่อยคลายไหลรวมกันผ่านโพรงหินใต้พื้นดินและผุดขึ้นมาให้ปรากฏ เป็นแหล่งน้ำใสสะอาดบริสุทธิ์ เป็นน้ำผุดหล่อเลี้ยงปู ปลาน้อยใหญ่ ต้นไม้ให้อุดมสมบูรณ์ ส่งผลความร่มเย็นตลอดทั้งปี  นอกจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ใกล้กับบ่อตาน้ำผุด มี พระพุทธรูปเก่าแก่และ “เจ้าพ่อหมื่นตื้อ” ซึ่งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
สวนรุกขชาตินี้ ชาวบ้านยังได้ร่วมกันพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีสินค้าของที่ระลึก มีบริเวณที่ปูเสื่อ นั่งสนทนากันในหมู่คณะ หรือจะนั่งบนเถียงนาน้อย (บ้านไม้ไผ่น้อย) บริเวณใต้ร่มไม้ใหญ่ มีสายน้ำไหลผ่านเย็นช่ำ ชื่อนใจพร้อมอากาสที่บริสุทธิ
             

5. ทุ่งดอกกระเจียว
.
ลานหินงาม
                  เป็นที่มาของชื่อ ป่าหินงามมีสภาพเป็นลานหินกว้างครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ล้อมรอบด้วยแนวป่าเต็งรัง บริเวณลานหินเต็ม ไปด้วยก้อนหินขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตา เช่น รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วย รางวัล ฟุตบอลฟีฟ่า รูปดอกเห็ดฯลฯ ซึ่งกิดจากการกัดเซาะของลมและน้ำมานานนับล้านปี
- สุดแผ่นดิน  อยู่ห่างจากทุ่งดอกกระเจียวประมาณ 300 เมตร เป็นจุดสูงสุดของ อช. ป่าหินงาม และเป็นหน้าผาสูงสุดชายขอบด้านตะวันตก ของที่ราบสูง โคราช มีความสูง 846 ม.ทางซ้ายมือเป็นที่ราบในเขต จ.พบุรี เบื้องหน้าเป็นทิวเขาและ ผืนป่า ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซับลังกาและ ทางขวามือเป็นพื้นที่ของจ. เพชรบูรณ์ สิ่งที่ดูพิเศษสุดของจุดชมวิว แห่งนี คือ ลักษณะของ ผาหินที่ยื่นออกไปในอากาศ คล้ายกับจุดชมวิว ผาหำหด แต่มีขนาดใหญ่กว่าเมื่อขึ้น ไปยืน บนหน้าผาจะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่าง ได้กว้างไกล
- ชมทะเลหมอกสุดแผ่นดิน(ช่วงปลายฝนต้นหนาว) จุดชมทิวทัศน์สุดแผ่นดินงดงามที่สุดในช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะมีสายหมอกปกคลุมผืนป่าเบื้องล่างเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ที่นี่เป็น จุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม



6.  ทุ่งกระมัง
                   เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว  อยู่ในพื้นที่คาบเกี่ยว 3 อำเภอคือ อำเภอภูเขียว อำเภอคอนสาร และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ และเป็นส่วนหนึ่ง ของผืนป่าอีสานตะวันตก เชื่อมรวมเป็นผืนป่าเดียวกันกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 3 แห่ง และอุทยานแห่งชาติอีก 4 แห่ง คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาผึ้ง , เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่ , เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง , อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน , อุทยานแห่งชาติภูกระดึง , อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว และอุทยานแห่งชาติตาดหมอก โดยดูแลด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า การเพาะเลี้ยงและ การขยายพันธุ์สัตว์ป่า เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ นกยูง เก้ง กวาง และเนื้อทราย เป็นต้นโดยปล่อยสัตว์ให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติสามารถ สืบพันธุ์และขยายพันธุ์ได้เอง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวได้มีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้สนใจศึกษาธรรมชาติ อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวยังถือว่าเป็นแหล่งเป็น"แหล่งศึกษาธรรมชาติ" เช่น ดูนก ดูผีเสื้อ หรือเดินป่า



7. ปรางกู่
                    มาถึงในตัวเมืองของจังหวัดชัยภูมิทั้งที เราก็หาโอกาสเดินทางไปชมความสวยงามของปรางค์กู่โบราณสถานที่ตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชนด้วยความสนใจ และจากที่ตาเห็นปรางค์กู่ของเมืองชัยภูมิไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก แต่ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว อย่ามัวแต่รอช้า เรามาเริ่มทำความรู้จักกับโบราณสถานที่สำคัญแห่งนี้กันก่อนดีกว่า
“ปรางค์กู่” เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มอาคารที่มีแผนผังและลักษณะเช่นเดียวกันกับปราสาท ตามหลักฐานเชื่อกันว่าปรางค์กู่แห่งนี้เป็น “อโรคยาศาล” หรือสถานพยาบาลที่สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ช่วงระหว่าง พ.ศ. 1724-1763 มีปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง 1 องค์ มีวิหารหรือบรรณาลัยด้านหน้า 1 หลัง ทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลงซึ่งมีโคปุระ หรือซุ้มประตูอยู่ที่ด้านหน้า ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยศิลาแลง เว้นก็แต่กรอบประตู หน้าต่าง ทับหลัง และเสาประดับที่เป็นหินทราย ภายในปรางค์ประธานทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ ศิลปะแบบทวาราวดีซึ่งเป็นของที่เคลื่อนย้ายมาจากที่อื่น ชาวชัยภูมิให้ความเคารพศรัทธามาก หลังจากที่เราได้สักการะขอพรเรียบร้อยแล้ว เราก็ค่อยเดินชมไปรอบๆ



8. ผาเกิ้ง


                  ผาเกิ้ง เป็นชื่อของหน้าผาที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นมาเป็นเวลานาน เพราะเป็นเป้าหมายในการเดินทางจากหุบเขาเขตภูเขียว(ทิวเขาเพชรบูรณ์)
ลักษณะปัจจัยแวดล้อมทางกายภาพ   ธรณีวิทยา    ภูเขาหินปูน
ลักษณะภูมิประเทศ    เป็นหน้าผาสูงเด่น หน้าผาที่ก้อนหินใหญ่ยื่นออกไป และเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อนที่มีความสวยงานเป็นอย่างยิ่ง
ดิน    ดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง พืชพรรณ
สัตว์ป่า    สัตว์ที่พบ ได้แก่ กระต่ายป่า ลิง หมูป่า กระจ้อน กระรอกบิน หนูหวาย พังพอน อีเห็น นกชนิดต่างๆ งูชนิดต่างๆ ปลาน้ำจืดชนิดต่างๆ และแมลงชนิดต่างๆ เป็นต้น



9.ศาลเจ้าพ่อพระญาเเล
              ชัยภูมิยังเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า โดยมีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ป่าในอำเภอคอนสาร เกษตรสมบูรณ์ และหนองบัวแดง พื้นที่ประมาณ 1,125,000 ไร่ มีภารกิจในด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า และเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์สัตว์ป่า เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ นกยูง เก้ง กวาง และเนื้อทราย เป็นต้นโดยปล่อยสัตว์ให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติ สามารถสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ได้เอง ได้มีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้สนใจศึกษาธรรมชาติอย่างใกล้ชิด แต่การเข้าไปทัศนศึกษาต้องติดต่อกับทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเสียก่อน
และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ชัยภูมิจึงเป็นเมืองที่มีสัตว์ใหญ่อย่างช้าง ไม่ด้อยไปกว่าจังหวัดสุรินทร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองช้าง โดยเฉพาะที่อำเภอจัตุรัสถือว่าเป็นอำเภอที่มีช้างอยู่มากเช่นกัน



10. วัดเต่าใหญ่
                 วัดแห่งนี้ถือว่ามีสถานที่ปฏิบัติธรรมอย่างร่มรื่นในเนื้อที่กว่า 50 ไร่ และจะมีเต่าจำนวนมากอาศัยอยู่รวมทั้งมีญาติโยมที่แบกรับภาระเลี้ยงดูไม่ไหว นำมาบริจาคให้กับช่วยเก็บรักษาเลี้ยงไว้จำนวนมากหลายพันตัวด้วยเช่นกัน จนทางวัด ต้องมีการนำป้ายไปติดเตือนประชาชนที่จะเดินทางมาวัด ระหว่างทางเข้าถนนหน้าวัดจะต้องมีการติดป้ายประกาศเตือนว่าระวังเหยียบเต่า เพื่อให้ระวังไม่ทำให้เต่าได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
พระครูสังฆรักษ์   รักจิตธัมโม หรือพระครูบาพเยาว์  เป็นเจ้าอาวาสวัดเต่าใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี กล่าวว่า ขอเชิญชวนให้ญาติโยมทุกคนมาร่วมกันปฏิบัติธรรม ซึ่งธรรมะจะเป็นตัวช่วยนำให้คนไปสู่แนวทางที่ดำรงชีวิตที่ดีขึ้นและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติได้ ในช่วงที่ปัจจุบันทุกคนอาจจะมีความเครียดวิตกกันมากกับปัญหาทางโลกและปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งในช่วงเข้าพรรษาปีนี้มีคนต่างหันมาเข้าวัดหาแนวทางปฏิบัติธรรมกันมากขึ้น รวมแม้กระทั่งนำสัตว์มาบริจาคที่วัดจำนวนมาก วัดก็พร้อมที่จะเป็นจุดศูนย์ให้ประชาชนพุทธศาสนิกชนได้มีทางออกให้กับชีวิตตัวเองได้ดีขึ้น ยกตัวอย่างแม้กระทั่งสัตว์อย่างจระเข้น้อยวัยกว่า 3 ขวบ ชื่อเจ้าค้ำคูณ ที่วัดเลี้ยงไว้มาตั้งแต่ตัวเล็กๆ จากเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน มีคนนำมาถวายให้วัดช่วยรับเลี้ยงไว้ จึงนำไปปล่อยเลี้ยงไว้ในสระข้างกุฏิ




บรรณนุกรม

painaidii (ม.ป.ป.) ที่เที่ยวชัยภูมิ-ที่เที่ยวชัยภูมิ - 10 ที่เที่ยวเมืองต้องห้ามพลาด เมื่อมาเยือนจังหวัดชัยภูมิ ค้นมาเมื่อ 29 กรกฎาคม 2559,

จาก  http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001479/lang/th/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น